หลักการทำงาน

ซิกม่าลิฟต์ (SygmaLift)เป็นการใช้ 3 เทคโนโลยี ได้แก่ ไฮฟู ไลน์ แฟรกชั่นเนต บีม HIFU (High Intensity Focusing Ultrasound) Lines Fractionated beam หรือไฮฟู ไลน์ (HIFU Lines) เป็นเทคโนโลยีที่ปล่อยพลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์ความเข้มข้นสูง โดยให้พลังงานคลื่นเสียงที่มีความถี่ 1.3 MHz และลงลึก 3, 3.5, 4, 4.5, 5 มิลลิเมตร โดยจะปลดปล่อยพลังงานออกมาเป็นดอต (Dot) ต่อกันเป็นเส้น (Lines) ที่มีความยาว 10 มิลลิเมตรจนเกิดความร้อนสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส

ทั้งนี้แต่ละครั้งจะมีจำนวนพลังงานที่เฉพาะเจาะจงออกมา 1,000 ครั้งต่อนาที และในช่วงเวลาเพียง 0.1-1 วินาที ช่วยกระตุ้นให้มีการจัดเรียงตัวใหม่ของเส้นใยคอลลาเจนใต้ผิว กระตุ้นการทำงานของไฟโบรบลาสต์เซลล์ให้ผลิตเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินเพิ่มมากขึ้น ช่วยในการสลายไขมันชั้นใต้ผิว ใช้รักษาในบริเวณใบหน้าส่วนกลางและส่วนล่าง (mid and lower face) เพื่อยกกระชับบริเวณแก้ม, คาง 2 ชั้น ช่วยปรับใบหน้าเข้ารูป และด้วยพลังงานที่ลงลึกถึงชั้นใต้ผิวหนังในบริเวณกว้างและให้พลังงานอย่างรวดเร็วนี้ จนทำให้เส้นประสาทในเนื้อเยื่อผิวหนังไม่สามารถรับรู้ถึงความรู้สึกใดได้ จึงไม่มีความเจ็บปวดเกิดขึ้นระหว่างการรักษา

Tri Micro Focal Ultrasound

ไตร ไมโคร โฟคอล อัลตราซาวนด์ (Tri Micro Focal Ultrasound) เป็นเทคโนโลยีที่ปล่อยพลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์ ชนิด Circular Flux Ultrasound Technology โดยให้ความถี่ 3 MHz พร้อมกัน 3 คลื่น และมีระดับความลึกของคลื่นอัลตราซาวนด์ที่ปล่อยพร้อมกันออกมา 3 ระดับ ได้แก่ 1, 1.5 และ 2 mm. เพื่อใช้สำหรับยกกระชับและลดเลือนริ้วรอยบริเวณรอบดวงตา หน้าผาก และรอบปาก ทั้งยังช่วยให้เส้นใยคอลลาเจนใต้ผิวเดิมจัดเรียงตัวใหม่จนยืดหยุ่นยิ่งขึ้น ร่วมกับกระตุ้นให้ผิวผลัดเซลล์เก่าออก (Promoting the exfoliation of the old cells) ความร้อนที่เกิดขึ้นจากพลังงานคลื่นอัลตราซาวนด์จะช่วยเพิ่มกระบวนการไหลเวียนโลหิต (Blood circulation) เพิ่มการทำงานของเอนไซม์ต่าง ๆ (Increase enzymatic activity) กระตุ้นไฟโบรบลาสต์เซลล์ให้ผลิตเส้นใยคอลลาเจนและอีลาสตินจึงช่วยกระตุ้นการซ่อมแซมของผิวในบริเวณที่มีริ้วรอย และปรับโครงสร้างผิวให้แข็งแรง

เลเซอร์เย็น

เลเซอร์ เย็น (Cold Laser) เป็นเทคโนโลยีที่ปล่อยพลังงานแสงเลเซอร์ความเข้มข้นต่ำ (LLLT: Low Level Laser Therapy) ที่มีความยาวคลื่น 635 nm ช่วยในการกระตุ้นกระบวนการหายของแผล (Healing process) ช่วยส่งเสริมกระบวนการผลิตเส้นใยคอลลาเจนทำให้เกิด Skin rejuvenation นอกจากนี้แสงยังช่วยเพิ่มการแลกเปลี่ยนก๊าซออกซิเจนในระดับของเซลล์ ทำให้การผลิตเส้นใยคอลลาเจนเป็นไปอย่างรวดเร็ว และยังเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิว (Speed up the turnover rate of the cells) ได้อีกด้วย

ระยะเวลาในรักษา : ประมาณ 40-60 นาที

ความรู้สึกระหว่างเข้ารับการรักษา

ผู้เข้ารับการรักษาแทบจะไม่รู้สึกถึงความร้อนหรือเจ็บในระหว่างการรักษาโดยอาจรู้สึกอุ่นเพียงเล็กน้อยเมื่อทำการรักษาด้วยไตร ไมโคร โฟคอล อัลตราซาวนด์ (Tri Micro Focal Ultrasound) และอาจเห็นแสงสว่างจ้า ๆ เมื่อทำการรักษาด้วยเลเซอร์

ระยะเวลาในการเห็นผลการรักษา

ภายหลังเสร็จสิ้นการรักษาพบว่า ร่องแก้มดูตื้นขึ้น ผิวตึงกระชับ (lifting/Tightening) ลดริ้วรอยเล็ก ๆ(Fine line)ผลการรักษาจะเห็นได้อย่างชัดเจนภายหลังเข้ารับการรักษาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ผลการรักษาสามารถคงอยู่ได้ต่อเนื่องอย่างน้อย 6 เดือน –1 ปี(ขึ้นกับคุณภาพผิวและลักษณะปัญหาของแต่ละบุคคล) ทั้งนี้สามารถให้การรักษาเพิ่มเติม (touch-up) ได้ทุก ๆ 6 สัปดาห์และสามารถทำการรักษาได้ 3 ครั้งภายใน 1 ปี

ความรู้สึกภายหลังการรักษา

ผู้เข้ารับการรักษาจะรู้สึกตึง ๆ ที่ผิวในบริเวณที่ทำการรักษาและจะมีอาการบวมเล็กน้อยซึ่งใช้เวลาประมาณ 2-3 วันก็จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติผู้เข้ารับการรักษาสามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างปกติอาจรู้สึกว่าผิวแห้งลงเพียงเล็กน้อยให้ทาครีมบำรุง (เพิ่มความชุ่มชื้น)และครีมกันแดดที่มีค่า SPF อย่างน้อย 30

เหมาะกับใคร

• ผู้ที่มีปัญหามีชั้นไขมันใต้คาง ซึ่งเหมาะสำหรับชั้นไขมันที่หนาไม่เกิน 5 มิลลิเมตร
• แก้มหย่อนคล้อย
• ริ้วรอยรอบดวงตา
• ริ้วรอยรอบปาก
• ริ้วรอยบริเวณลำคอ
• ผู้ที่มีใบหน้าไม่เข้ารูป
• สามารถทำการรักษาได้ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
• ตามดุลยพินิจของแพทย์

ไม่เหมาะกับใคร

• มีแผลเปิดในบริเวณที่ต้องการทำการรักษา
• บนบริเวณที่มีสิวในระดับที่เรียกว่า severe or cystic acne ในบริเวณใบหน้าหรือลำคอ
• ผู้ที่มีการผ่าตัดใส่ pacemakers, defibrillators or metallic implants ในบริเวณที่ต้องการทำการรักษา Precautions and warning
• หญิงตั้งครรภ์
  ​

ข้อควรระวัง

• ไม่แนะนำให้ทำการรักษาในบริเวณที่ฉีด Dermal fillers, Mechanical implants
• ไม่ทำการรักษาบนบริเวณที่มีแผลเป็น คีลอยด์ (Keloid) โดยตรง
• ไม่แนะนำให้ทำการรักษาในผู้ที่จะต้องรับยากลุ่มป้องกันการแข็งตัวของเลือด (anticoagulant)
• บริเวณที่ต้องหลีกเลี่ยงในการทำการรักษา ได้แก่ บริเวณต่อมไทรอยด์ (Thyroid gland, Thyroid cartilage and Trachea)บริเวณที่มีเส้นเลือดใหญ่ (Major vessels)
• ควรทำการซักประวัติก่อนทำการรักษา โดยไม่แนะนำให้ทำการรักษาในผู้ที่มีอาการของโรคดังต่อไปนี้ (ในระยะที่มีการแสดงอาการ) ได้แก่
• - A hemorrhagic disorder or haemostatic dysfunction (โรคเลือดออกง่าย)
• An active or local skin disease that may alter wound healing – Herpes Simplex (โรคเริม)
• Autoimmune Disease (โรคภูมิต้านเนื้อเยื่อของตนเอง)
• Diabetes (โรคเบาหวาน)
• Epilepsy and Bell’s palsy (โรคลมชักและโรคใบหน้าเบี้ยวครึ่งซีก)
• ตามดุลยพินิจของแพทย์

ข้อแนะนำ

แนะนำให้ทำการรักษาด้วยซิกม่าลิฟต์ (SygmaLift) ภายหลังจากที่ทำการฉีด Botox อย่างน้อย 6 เดือน หลังฉีด Filler อย่างน้อย 2-3 เดือน หรือตามดุลยพินิจของแพทย์